แน่นอนว่าถนนในบ้านเราในแต่ละพื้นที่จังหวัดต่างมีถนนเส้นทางที่ต่างกัน บางจังหวัดก็เป็นเส้นทางตรงขับขี่ง่ายสะดวก แต่บางจังหวัดก็เป็นเส้นทางที่ต้องขับขึ้นเขา ลงเขา ซึ่งีความอั น ต ร า ย ากกว่าทางตรงฉนั้นเราจะขับอ ย่ างไรให้ปลอ ดภั ย เมื่อต้องขับขึ้นเขา ลงเขา วันนี้เราจะพามาดูว่าเราต้องรู้อะไรบ้างในการขับรถขึ้นเขา ลงเขา
เชื่อว่าจุดประสงค์ของคนซื้อรถ ก็คือ ความสะดวกสบายก่อนการเดินทาง แน่นอนว่าในช่วงหยุดย า วอาจจะมีโอกาสได้ขับรถ คู่ ใ จออ กไปเที่ยวเ ติ ม พ ลั ง ชี วิ ตบ้าง บ ร ร ด านักขับทั้งหล า ยคงต้อ งฝ่ า เส้นทางอ ย่ า งยอ ดดอย ยอ ดภูเขาทั้งหล า ยเพื่อไปให้ถึงเป้าห ม า ย วันนี้เรามี 8 เ ท ค นิ คง่ายๆ ขับรถขึ้น-ลงเขา มาฝากกันค่ะ จะเป็นอย่ างไรนั้นไปดูกันเลยคะ
รับรองว่าเ ท ค นิ คเหล่านี้มีประโยชน์แน่นอน สามารถใช้ขับรถ ขึ้น-ลง เขาได้อย่ างป ล อ ด ภั ยและลดภาระของร ถ ย นต์ได้อย่ างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นในเส้นทา ง อั น ต ร า ยแบบนี้ควรตั้งสติตลอ ดเวลาและอ ย่ าประม า ทเด็ดข า ดค่ะ
มาดูข้ อห้ า มกันก่อนดีกว่า
1 ห้ า มเหยียบคลัทซ์ จะทำให้แรงกดถนนจากเครื่องยนต์ถูกตัดข า ด รถจะไม่เกาะถนน ยิ่งหากถนนลื่นหรือมีการหักเลี้ยว รถจะเ สี ยการทรงตัวหมุนทันที
2 ห้ า มใช้เบรคตลอ ดเวลา เ พ ร า ะการใช้เบรคมากหรือเบรคแช่ตลอ ดเวลา จะทำให้เบรคเกิดความร้อน ผ้าเบรคอาจจะไหม้ และทำให้เบรคไม่อยู่
3 ห้ า มแซงทางโค้ง โดยเฉพาะโค้งช่วงที่เรามองไม่เห็นรถสวนจากข้างหน้า ค่อยๆ ขับต ามอ ย่ างระมัดระวัง มองให้ไกล เพื่อประเมินเส้นทางเบื้องต้น เมื่อปลอ ดภั ย และเลยโค้งแล้วค่อยหาจังหวะแซง
4 ห้ า มใช้เกียร์ว่าง เ พ ร า ะจะทำให้เ สี ยการทรงตัว เนื่องจากรถนั้น มีน้ำหนักมาก
มาดูข้ อที่ควรปฏิบัติกันบ้าง
1 ควรใช้เกียร์ต่ำ ปรับเปลี่ยนเกียร์เมื่อรถเ สี ยกำลัง อย่ าลากเกียร์จนหมดแรง ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ D2 (ถ้าไม่ใช้เกียร์L) และเมื่อพ้นทางชัน ปรับเข้าเกียร์ D อ ย่ าลากเกียร์ต่ำ เ พ ร า ะเครื่องยนต์จะมีรอบสูง ทำงานหนักจนเครื่องอาจ น็ อ คได้
2 เมื่อขับลงเขาที่ลาดชัน ให้เปลี่ยนเกียร์ D มาเป็น D2 ถ้ายังเอาไม่อยู่ให้เปลี่ยนเป็นเกีบร์ L แต่อย่ าทำให้ขณะฝนตกทางบื่นรถจะเ สี ยการทรงตัว ควรดูสภาพทางเป็นหลักในการพิจารณา
3 หากทีคนนั่วข้างๆก็ให้ดูสภาพทางที่เมื่อแน่ว่าแล้วไม่มีรถสวน มาให้ใช่วิธีตัดโค้ง วิธีนี้จะช่วยให้รถทรงตัวดี, เข้าโค้งได้เร็ว, รถให้กำลังของลูกบิดล้อไม่หนักทำงาน, ย า งไม่ล้มตัวมากหน้าย า งจะสัมผัสถิวถนนได้มากต ามไปด้วย แต่ต้องแน่ใจไม่มีรถสวน มาชนคุณ เช่น เข้าโค้งขวา ก่อนเข้าโค้ง ก่อนเข้าโค้งให้ถอนคันเร่งหักพวงมาลัยไปทางซ้ายนิดหนึ่งแล้วหักพวงมาลัยมอาทางขวาเพื่อทำโค้ง
4 การขับรถโค้งต่อเนื่องเป็นรูปตัว S มองให้ไกลมองให้ลึกให้แน่ใจว่าทางว่างไม่มีรถสวน มา ให้ถอนคันเร่งลงแล้วขับเ สี ยบตัดโค้ง ให้แนวการขับเป็นเส้นตรงที่สุด แต่การขับลักษณะนี้ถ้าไม่แน่ใจเส้นทางข้างหน้าหรือวิสัยทัศไม่ดีควรขับทางโค้งธรรมดาอยู่ในทางของเราเอง
5 สามารถเพิ่มระยะเบรกด้วยการเลี้ยวรถไปต ามไหล่ทางหรือมีพื้นที่ว่าง เพื่อเพิ่มระยะเบรก
6 ขับรถบนภูเขาที่มีทางคดเคี้ยวเป็นเวลานานๆเมื่อถึงทางตรงย าว ก็ควรแตะเบรกควบคุมความเร็วไว้ตลอ ดห้ า มปล่อยรถไหลเองเด็ดข า ด หากไปแตะเบรกทีเดียวก่อนถึงโค้งอาจมีเศษหินเศษดินบริเวณนั้นบวกความเร็วรถจนควบคุมไม่อยู่
7 การขับในวิสัยทัศนวิสัยไม่ดีทางโค้งแคบที่มีสันเขาบังสายต าควรเข้าโค้งแบบธรรมดาต้องบีบแตรส่งสัญญาณทุกครั้งก่อนจะเข้าโค้งเพื่อป้องกันรถที่วิ่งสวน มา เนื่องจากรถเจ้าถิ่นจะขับโค้งรถตัดเลนเป็นประจำ
8 ทางลูกรังหรือทางที่มีหินลอยถือได้ว่าเป็นถนนป ร า บเ ซี ย น หากไม่คุ้นเคยเส้นทางมาก่อนก็ไม่ควรขับรถด้วยความเร็วสูง สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ การเตรียมย านพาหนะให้พร้อม และศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนการเดินทาง
ที่มา poobpub