อาหาร 4 อ ย่ าง ที่ไม่ควรทานเป็น มื้อเช้าบ่อยๆ

อาหารเช้าจัดเป็น มื้อสำคัญที่สุด เพราะร่ า งกายต้องการส า รอาหารในช่วงเช้ามากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ได้แก่ โปรตีน วิต ามิน และเกลือแร่ การกิน มื้อเช้าในวัยทำงานจะทำให้ร่ า งกายแข็งแ ร ง และกระฉับกระเฉงในการทำงาน มากขึ้น สำหรับในเด็กวัยเรียนจะทำให้มีสมาธิในการเรียนและมีภูมิคุ้มกันที่ดี

การไม่กินอาหารเช้า หรือ กินอาหารเบาๆ แค่ขน มปังหรือ กาแฟ จะทำให้ร่ า งกายได้รับส า รอาหารน้อยกว่าที่ควร ซึ่งในระยะสั้นอาจไม่รู้สึกว่ามีผลกระทบต่อร่ า งกาย แต่ในระยะย าวจะส่งผลต่อสุ ข ภ า พโดยรวมได้อ ย่ างแน่นอน

แต่ตอนเช้ามักเป็นเวลาที่เร่งรีบของใครหล า ยๆคน จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รีบประทานอาหารเช้า หรืออาจจะไม่ได้ใส่ใจเลือ กรับประทานอาหาร จึงมองหาอาหารที่ทานได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว แต่อาหารหล า ยอ ย่ างที่เรานิยมทานกันเป็นอาหารที่ไม่ควรจะทานในตอนเช้าเลย จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

1. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

เมนูอาหารเช้าอีกหนึ่งอ ย่ างที่ข า ดไม่ได้สำหรับบ้านเรา ไม่ว่าจะวัยเรียน วัยทำงาน ก็มักจะชอบรับประทานกันเป็นอาหารเช้า เพราะสะดวก หาซื้ อได้ง่าย และอิ่มท้องได้นานจนถึงมื้อเที่ยง แต่การรับประทานข้าวเหนียวหมูปิ้งตอนเช้าทุกวันเป็นประจำ ก็คงจะไม่ดีกับร่ า งกายสักเท่าไหร่ เพราะเป็นอาหารที่มีแ ค ลอ รี่สู ง และยังมีส า รก่อม ะเ ร็ งจากการปิ้งอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะรับประทานบ่อยจนเกินไป

2. ปาท่องโก๋

สำหรับปาท่องโก๋ ก็เรียกได้ว่าเป็นอาหารเช้าคู่ใจของใครหล า ยๆคน ที่จะชอบกินคู่กับน้ำเต้าหู้ในตอนเช้า เพราะบางคนก็ไม่ชอบทานอะไรหนักๆในมื้อเช้า แต่ปาท่องโก๋ ก็คือแป้งทอ ดที่เต็มไปด้วยน้ำมัน และพลังงานในปาท่องโก๋ก็มาจากไขมันที่เป็นน้ำมันในการทอ ด มากกว่าพลังงานที่มาจากแป้ง

การกินปาท่องโก๋เป็นประจำทุกเช้า ก็ทำให้เสี่ ย งเป็นเ บ า ห ว า นได้เช่นกัน เพราะปาท่องโก๋ที่ทำมาจากแป้ง จะเปลี่ยนเป็นน้ำต าลภายใน 3 นาที และถูกดูดซึมเข้าสู่ร่ า งกายอ ย่ างรวดเร็ว และพอผ่านไป 30 นาที จะทำให้ร่ า งกายมีอารมณ์ห งุ ดห งิ ด เหนื่อย ไม่สดชื่น

3. กล้วย

กล้วย ถึงแม้จะมีประโยชน์กับร่ า งกายมากมายก็ต าม แต่การเลือ กรับประทานกล้วยในมื้อเช้า ในขณะที่ท้องยังว่าง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะจะทำให้ท้องอืด รวมถึงกล้วยมีแ ม กนีเซี ย มสู งเป็นส่วนประกอบ

ซึ่งจะส่งผลให้ระดับของแมกนีเซียมในโ ล หิ ตของเราสูงขึ้นไปด้วย ทำให้มีผลต่อ การทำงานของหลอ ดโ ลหิ ตของหัวใจได้ แต่หากรับประทานในเวลาอื่นที่ไม่ได้อยู่ในขณะท้องว่าง ก็ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อ ย่ างมาก ที่สำคัญยังช่วยในเรื่องการขั บถ่ า ยได้เป็นอ ย่ างดีเลยล่ะ

4. น้ำเต้าหู้

ถึงแม้ว่าน้ำเต้าหู้ จะเป็นอาหารเช้ายอ ดฮิตที่ได้รับความนิยมเป็นอ ย่ างมากในทุกวัย และยังดูเป็นเครื่องดื่ มที่มีประโยชน์ต่อร่ า งกาย เพราะทำมาจากถั่วเหลือง ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีน ค าร์โบไฮเ ด รต และวิต ามินแร่ธาตุต่างๆมากมาย

แต่การรับประทานเป็นอาหารเช้า ซึ่งเป็นตอนที่ท้องว่าง จะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ดังนั้นถ้าไม่อย ากให้ท้องอืด ก็ต้องทานน้ำเต้าหู้คู่กับอาหารจำพวกแป้ง เช่น ขน มปัง จะดีที่สุด และควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม 1-2 แก้วต่อวัน เน้นดื่ มแบบไม่ผสมน้ำต าลจะดีต่อร่ า งกายมากกว่า

ที่มา  herbtrick