Home ข้อคิด คำคม 9 สิ่งที่ไม่ควรทำกับลูก ถ้าอย ากเลี้ยงลูกให้ดี

9 สิ่งที่ไม่ควรทำกับลูก ถ้าอย ากเลี้ยงลูกให้ดี

22 second read
ปิดความเห็น บน 9 สิ่งที่ไม่ควรทำกับลูก ถ้าอย ากเลี้ยงลูกให้ดี
0

คนเป็นพ่อเป็นแม่ มักใช้ความเป็นผู้ใหญ่มองเ ด็ ก โดยบางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เ ด็ กคิดนั้น อาจเป็นอีกหนึ่งมุมมองของเขา มีหล า ยสิ่งหล า ยอ ย่ างที่พ่อแม่อาจไม่เคยรู้ ว่าสิ่งที่ทำกับลูกในทุกวันนี้ อาจส่งผลทําร้ า ยจิตใจลูกได้มากที่สุด อย ากเลี้ยงลูกให้ดี เลิกทำ 9 สิ่งที่ทำร้ า ยจิตใจลูก

1. ใช้ความรุ น แ ร งกับลูก

หมดยุคการลงโ ท ษโดยใช้ไม้เรียวตีลูก เพื่อสร้างให้เป็นคนดีกันแล้ว เ พ ร า ะการตีหรือใช้ความรุ น แ ร งกับเ ด็ ก ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลง หรือปรับนิสัยลูกให้เป็นไปต ามที่พ่อแม่คาดหวังได้ แต่จะเป็นการซ้ำเติมให้ลูก มีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความรุ น แ ร งระหว่างพ่อแม่ท ะ เ ล า ะกัน หรือความรุ น แ ร งที่ทำต่อลูก ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่ยิ่งทำให้ลูกมีอาการต่อต้านหนักขึ้น และจะกล า ยเป็นภาพจำ ทำให้ลูกกล า ยเป็นเ ด็ กก้าวร้าวต่อไปได้ในอนาคต

2. เมินเฉยกับการทำดีของลูก หรือรู้สึกยินดีแบบผ่าน ๆ

ผู้ใหญ่มักมองเห็นความสำเร็จเล็ก ๆ ของลูกเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย และให้ความยินดีแค่เพียงผ่าน ๆ แทนที่จะมองว่าผลลัพธ์ ในสิ่งที่ลูกทำได้ดีนั้น จะเป็นการต่อยอ ดไปสู่ผลงาน หรือความสำเร็จที่ดีในอนาคตของเขาได้ หากได้รับการส่งเสริมที่ดีจากพ่อแม่ การเมินเฉยหรือ การยินดีแค่เพียงชั่ วขณะ อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่มั่นใจ และไม่ภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้

3. มองข้ามการแสดงความคิดเห็นของลูก

ผู้ใหญ่มักแสดงความไม่พอใจต่อเ ด็ กที่ประพฤติตัวไม่ดี โดยอาจใช้การดุด่ า ต่อว่า แต่เ ด็ กร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจในตัวผู้ใหญ่ออ กมาได้ และหากกล่าวว่าผู้ใหญ่ผิ ดก็ทำให้มองว่าเป็นเ ด็ กไม่ดี

ทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พ่อแม่สามารถเป็นแบบอ ย่ างให้ลูกในการแสดงออ ก และเปิดใจให้กว้าง ต่อ การฟังความคิดเห็นจากทุกคนในครอบครัว ยอมรับความผิ ดถูก และช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อให้ลูกกล้าแสดงออ ก และรู้จักที่จะยอมรับในสิ่งผิ ด อันจะเป็นรากฐานต่อ การใช้ชีวิตในสังคมเมื่อเขาเติบโตขึ้น

4. เปิดเผยค ว า ม ลั บของลูกให้คนอื่น

แท้จริงแล้วพ่อแม่คือที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของลูก แต่เ ด็ กในสังคมไทยปัจจุบัน กลับเลือ กปรึกษาเพื่อนก่อนพ่อแม่ ซึ่งอาจจะเป็นเ พ ร า ะว่าบางเรื่อง พ่อแม่เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเป็นเรื่องที่มองข้ามความสำคัญของลูกไป หรือแก้ปัญหาไม่ตรงจุด จนลูกมองว่าพ่อแม่ช่วยอะไรไม่ได้ แต่สาเหตุหลักคือเรื่องของค ว า ม ลั บที่เ ด็ กไม่อย ากให้คนจำนวน มากรู้

หากมีเรื่องสำคัญนั้น ร้อยละ 80 ลูกมักจะเลือ กบอ กแม่ แต่แม่ก็อาจจะนำค ว า ม ลั บนี้ไปปรึกษาพ่อหรือคนอื่น ซึ่งการทำแบบนี้ อาจทำให้เ ด็ กเกิดความรู้สึกไม่ไว้วางใจ หรือเชื่อใจที่จะบอ กค ว า ม ลั บตนเอง จึงมักทำให้เกิดปัญหาต ามมาทีหลังได้

5. อารมณ์เ สี ยใส่ลูก

พ่อแม่ที่อารมณ์เ สี ยหรือท ะ เ ล า ะกัน บางครั้งก็มักจะอารมณ์เ สี ยใส่ลูกโดยไม่รู้ตัว หรือพาลไปหาเรื่องลูก ลงใส่ลูก การทำแบบนี้นอ กจากจะเป็นการทำร้ า ยจิตใจลูกโดยง่ายแล้ว ยังทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่มีเหตุผล จนไม่คิดจะเชื่อถือได้

6. ลงโ ท ษเมื่อลูกทำผิ ด

พ่อแม่จำนวน มากคิดว่าการลงโ ท ษ คือวิ ธีที่จะทำให้เ ด็ กจดจำ และจะไม่ทำผิ ดอีก แต่กลับตรงกันข้าม วิ ธีนี้จะทำให้ทำให้ลูก รู้สึกเ สี ยใจ กล า ยเป็นเ ด็ กที่เก็บกด และกลัวความผิ ดพลาด จนกล า ยเป็นคนขี้ระแวงได้ วิ ธีที่ถูกต้องที่สุดคือ

การปลอบเมื่อลูกทำผิ ดพลาด อธิบายเหตุผลว่าทำไมนี่คือสิ่งที่ลูกทำผิ ด จะมีผลเ สี ยอ ย่ างไร พร้อมทั้งแนะนำ ช่วยกันหาวิ ธี คิดแก้ปัญหาให้กับลูก หรือใช้วิ ธีลงโ ท ษแบบนุ่มนวล เช่น การลงโ ท ษแบบ time in หรือ time out

7. ใช้ถ้อยคำรุ น แ ร ง ด่ า ว่าลูก

การใช้ถ้อยคำที่ว่ากล่าวตักเตือนเมื่อเ ด็ กทำผิ ด ไม่ใช่การด่ า ว่า ใช้คำรุ น แ ร ง ส่อเ สี ยด เพื่อให้เ ด็ กกลัวหรือหลาบจำ เ พ ร า ะการทำแบบนี้ นอ กจากจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดี ยังทำให้เ ด็ กไม่มีความสำนึกผิ ด หนำซ้ำยังคิดจะทำครั้งต่อไป แบบที่ไม่ทำให้โดนจับได้ เพื่อจะได้ไม่โดนด่ า แถมยังเกิดการเลียนแบบถ้อยคำหย าบคายจากผู้ใหญ่อีกด้วย

8. นำเรื่องที่เคยทำผิ ดของลูกมากล่าวว่าซ้ำ ๆ

ผู้ใหญ่ส่วน มากเวลาดุเ ด็ กที่ทำผิ ด มักจะนำเรื่องของลูกที่เคยทำผิ ดมาแล้ว มากล่าวว่าซ้ำ ๆ เหมือนเป็นการตอ กย้ำซ้ำเติมลูกเข้าไปอีก และร้อยละ 50 ที่แสดงอาการแบบนี้ จะหยุดก็ต่อเมื่อเ ด็ กเกิดอาการเ สี ยใจ การทำแบบนี้ถือเป็นการกระทำที่ทำร้ า ยจิตใจลูกได้มาก และจะทำให้เ ด็ กเกิดความรู้สึกเ จ็ บใจ โ ก ร ธ จนทำให้ลูกไม่คิดจะปรับปรุงตัวให้เป็นเ ด็ กที่ดีขึ้นง่าย ๆ แน่

9. เอาความคิดของตัวเองเป็นหลัก และไม่ใจกว้างที่จะเข้าใจลูกตัวเอง

พ่อแม่อาจจะจดจำวันเดือนปีเกิดของลูกได้ รู้ว่าลูกชอบกินอะไร หรือไม่ชอบอะไร ฯลฯ แต่การรู้จักลูกในสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้หมายความว่า คนเป็นพ่อแม่จะเข้าใจในสิ่งที่ลูกคิดได้ หากคุณยังต้องการให้ลูกทำสิ่งต่าง ๆ ในแบบที่พ่อแม่คิด

โดยไม่ถามความสมัครใจ หรือไม่ได้สังเกตอาการ สีหน้า ความสุข ของลูกเลย พ่อแม่ทุกคนอย ากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะห้ า มตี ห้ า มดุไปเลยทีเดียว แต่ควรทำแบบพอ ดี ไม่มากเกินไป

ควรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ใช้ความจำเป็นให้มากกว่าความต้องการ เพื่อไม่เป็นการทำร้ า ยจิตใจลูก และสร้างลูกให้เป็นคนดีต่อไป เพื่อความภูมิใจของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อเขาเติบโตขึ้น มานะคะ

ที่มา t h t h e a s i a n p a r e n t na-aan

Load More Related Articles
Load More By kiddidee
Load More In ข้อคิด คำคม
Comments are closed.

Check Also

4 ข้ อคิดใช้เ งิ นให้มีเก็บของคนเ งิ นเดือน 15,000

ทุกวันนี้อะไรก็ขึ้นราคาไปหมดมีอ ย่ างเดียวที่ไม่ขึ้นก็ค … …