เคยได้ยินไหมว่าแค่ความคิดก็ทำให้ชีวิตติดลบได้ ไม่ว่าจะในเรื่องใดแม้กระทั่งในครอบครัวถ้าเรามีความคิดลบๆก็จะทำให้ครอบครัวนั้นจะคอยมีแต่ปัญหา คนในครอบครัวท ะ เ ล า ะกันสุดท้ายก็แตกแยกร้าวฉาน
ความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ยิ่งเป็นความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องดูแลและประคับประคองให้ดี แต่ถึงแม้ว่าเราจะดูแลความสัมพันธ์ได้ดีแค่ไหน แน่นอนว่าก็ต้องมีบ้างที่บางความคิดทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวเกิดรอยร้าว เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าความคิดเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง คิดว่าเรื่องเ งิ นคือสิ่งสำคัญที่สุด แน่นอนว่าเ งิ น
ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต แต่ว่าเ งิ นก็ไม่ใช่ทุกอ ย่ าง เ พ ร า ะเ งิ นไม่สามารถซื้ อความอบอุ่นหรือความรักระหว่างคนในครอบครัวได้ คงมีไม่น้อยที่พย าย ามทำงานหนัก เพื่อหาเ งิ น มาเลี้ยงดูครอบครัวแต่ไม่มีเวลามาอยู่กับลูกหรือคนที่รัก เ พ ร า ะคิดว่าสามารถใช้เ งิ นทดแทนเวลาที่ห า ยไปได้ แต่จริงๆ แล้ว เ งิ น ไม่ใช่พ่อแม่หรือสามีภรรย าที่ดีนักหรอ กค่ะ คนทุกคน ล้วนต้องการความเอาใจใส่จากคนที่รักด้วยกันทั้งนั้น
1.คิดว่าเรื่องของคนในครอบครัวไม่สำคัญ
การเอาใจใส่กันคือเรื่องสำคัญมากๆ ในการดูแลความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวทั้งพ่อแม่และลูก อ ย่ ามองว่าปัญหาของคนในครอบครัวคือเรื่องของใครของมัน จริงอยู่ว่าเราคงไม่สามารถแก้ ปัญหาให้กับทุกคนได้ แต่ก็ไม่ควรให้คนที่เรารักเผชิญหน้ากับปัญหาคนเดียว ควรให้กำลังใจและถามไถ่ความเป็นไปของแต่ละคนในครอบครัว แต่ก็ไม่ควรมากเกินไปจนเหมือนกล า ยเป็นการจับผิ ดกัน
2.คิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดเวลาไม่เข้าใจกัน
เวลาที่คนสองคนเข้าใจผิ ดหรือเข้าใจไม่ตรงกันหากไม่ท ะ เ ล า ะก็คงจะใช้ความเงียบเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซึ่งการเงียบก่อนก็เป็นสิ่งที่ดี เ พ ร า ะจะทำให้แต่ละคนสงบสติอารมณ์และใจเย็น มากขึ้น แต่การเงียบตลอ ดก็มีผลเ สี ยเหมือนกัน เ พ ร า ะปัญหาหรือความเข้าใจผิ ดนั้นจะไม่ถูกแก้ไข แต่กลับกล า ยเป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรม ดังนั้นจริงๆ แล้วเมื่อคนเราไม่เข้าใจกันก็ควรที่จะหันหน้า คุยกัน มากกว่าเงียบใส่กัน แต่ว่าต้องเลือ กใช้คำพูดที่คิดถึงใจอีกฝ่ายให้มากๆ อ ย่ าให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล และการประชดประชันไม่ใช่คำพูดที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลยสักนิด
3.คิดว่าตัวเองทำเพื่อครอบครัวอยู่คนเดียว
ครอบครัวคือสิ่งที่คนสองคนพย าย ามสร้างขึ้น มาให้กล า ยเป็นอันหนึ่งอันเดียว เปลี่ยนจากคำว่า เธอ และ ฉัน เป็นคำว่า เรา ซึ่งจะต้องใช้การร่วมแ ร งร่วมใจของคนสองคน ไม่ใช่ใคร คนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าหากมีใครคนหนึ่งกำลังเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเป็นการพย าย ามทำเพื่อครอบครัวอยู่ฝ่ายเดียวอาจเป็นเ พ ร า ะว่าในบางทีเราอาจจะรู้สึกเหนื่อยเกินไป จน มองข้าม
ว่าอีกฝ่ายก็กำลังทำหน้าที่ที่แตกต่างเพื่อครอบครัวอยู่เช่นกัน ดังนั้นก็ควรที่จะต้องหันหน้าเข้ามาคุยกันถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่าเป็นเ พ ร า ะอะไร ต้องคุยกันโดยที่ห้ามใช้อารมณ์ โ ท ษอีกฝ่ายหรือโ ท ษตัวเองเด็ดข า ด เ พ ร า ะการใช้อารมณ์มีแต่จะทำล า ยความรู้สึกของกันและกัน
4.คิดว่าเรื่องเ งิ นคือสิ่งสำคัญที่สุด
แน่นอนว่าเ งิ นถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต แต่ว่าเ งิ นก็ไม่ใช่ทุกอ ย่ าง เ พ ร า ะเ งิ นไม่สามารถซื้ อความอบอุ่นหรือความรักระหว่างคนในครอบครัวได้ คงมีไม่น้อยที่พย าย ามทำงานหนัก เพื่อหาเ งิ น มาเลี้ยงดูครอบครัวแต่ไม่มีเวลามาอยู่กับลูกหรือคนที่รัก เ พ ร า ะคิดว่าสามารถใช้เ งิ นทดแทนเวลาที่ห า ยไปได้ แต่จริงๆ แล้ว เ งิ น ไม่ใช่พ่อแม่หรือสามีภรรย าที่ดีนักหรอ กค่ะ คนทุกคนล้วนต้องการความเอาใจใส่จากคนที่รักด้วยกันทั้งนั้น
5.คิดว่าคนในครอบครัวคือคนกันเองจะทำยังไงก็ได้
ความเคยชินอาจทำให้เรามองข้ามความสำคัญของคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเรา การคิดว่าคนในครอบครัวเป็นคนกันเองแล้วเราจะทำตัวไม่น่ารัก พูดจาทำร้ า ยจิตใจ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจกันอาจเป็นเรื่องที่ ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวเกิดความขัดแย้งได้ สงสัยไหมว่า ทำไมเราถึงถนอมน้ำใจคนอื่น มากกว่าคนในครอบครัว ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว คนในครอบครัวหรือคนใกล้ตัว คือคนที่เราต้อง ให้ความสำคัญ ใส่ใจในความรู้สึก ถนอมน้ำใจกันให้มากที่สุดแท้ๆ
ที่มา parentsone . com fahhsai