เมื่อพูดถึงเรื่องลูก คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคน ย่อมมีความกังวลและเป็นห่วงในหล า ย ๆ ด้าน ซึ่งความห่วงที่นอ กเหนือจากเรื่องของสุขภาพแล้ว ก็ยังห่วงเรื่องการปลูกฝังนิสัยต่าง ๆ อีกด้วย ว่าจะมีวิ ธี สอนลูกให้เชื่อฟัง ยังไงดี กลัวลูกต่อต้าน
ลูกยิ่งลูกโต เราเองก็หวังจะลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟัง สอนง่ายเหมือนก่อน มันก็เป็นเรื่องย าก เ พ ร า ะเขาก็มีความคิดของตัวเอง เริ่มคิดเองได้ บางเรื่องก็บอ กไม่ได้ สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า บางทีลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำ ในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการเลย เ พ ร า ะงั้น จึงทำเป็นหูทวนลม เพิกเฉยต่อคำพูดพ่อแม่ไป และนี่แหละมันอาจเป็นที่มาของปัญหา
1. สอนด้วยการใช้เ ท ค นิ ค ที่สามารถเข้าใจง่ายๆ
เด็ กเขาอาจจะยังฟังประโยคย าวๆ ไม่เข้าใจเหมือนผู้ใหญ่ สิ่งที่ควรทำคือ ใช้วิ ธีสอนเขา ในแบบที่ให้จำง่ายขึ้น เช่น พูดให้ตื่นเต้น วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียนบ้ างล่ะลูก หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้ าม เ พ ร า ะทำให้ลูกไม่อย ากทำต าม และนอ กจากนี้ พ่อแม่อาจเปลี่ยน มาใช้ การให้คะแน นเพื่อให้ลูกมีเป้าหมายที่จะทำมันในการเชื่อฟังพ่อแม่มากขึ้น
2. สอนด้วยการตกลงระหว่างกัน
ก็ส่วน มากเ ด็ กก็มีอะไรที่ชอบ ที่ไม่ชอบ และบ่อยครั้งที่คุณให้ลูกทำสิ่งที่ไม่ชอบ แล้วนานเกินไปจนลูกเริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่ และสิ่งที่ควรทำนั้น ก็ต้องทำให้ เด็ กวัย 2-3 ขวบ ที่เป็นวัยแห่งการต่ อต้ าน เราลองให้ข้ อเสนอ เพื่อเป็นข้ อตกลงดูสิ เพื่อลดการโ ต้เ ถี ย งลงได้ บางทีเขาอาจจะฟังเรามากขึ้น
3. สอนลูกจากการเป็นแบบอย่ างที่ดีให้เขาเห็น
เ พ ร า ะในช่วงวัยเด็ กเค้ามักจะเลียนแบบพฤติก ร ร มของคนใกล้ชิดของเขา และไม่สามารถ แยกได้ว่าอะไรไม่ควร หรือควรทำ มันจึงทำให้หล า ยครั้ง ลูกเผลอเลียนพฤติก ร ร มไป แล้วเมื่อถูกตำหนิ ต่อว่าลูกจึงไม่เข้าใจ ว่าทำไมพ่อแม่ทำได้ล่ะ และการทำให้ลูก เกิดความสงสัยแล้วพ่อแม่ก็ไม่อธิบาย แล้วนำไปสู่สาเหตุที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง เราต้องให้ลูกเรียนรู้จากการกระทำที่ดีๆ ของพ่อแม่ มากกกว่าคำพูด เ พ ร า ะฉะงั้น พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่ างให้ลูกเห็น ว่าอะไรดี หรือไม่ดี
4. สอนด้วยคำพูด และ สายต าแห่งความรัก
เมื่อลูกทำผิ ดคุณอาจจะทนไม่ได้ ที่จะตะคอ กไป จนกล า ยเป็นคำพูดแร งๆ ทั้งยังไม่สนใจ ฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายอีก การขึ้นเ สี ยงการตะคอ ก มันอาจทำให้ลูกสงบลงได้ก็จริง แต่ในอนาคตลูกก็จะทำอีก ฉะนั้น สิ่งที่ควรทำคือ เริ่มจากดึงความสนใจลูก เช่น เรียกชื่อลูกใช้คำพูดง่ายๆ ให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำไป ใช้น้ำเ สี ยงที่หนักแน่น
แต่ไม่ดุดันเกินไป บอ กทางป้ องกันแก้ปัญหาจะดีกว่านะ เ พ ร า ะนอ กจากคำพูด กับน้ำเ สี ยงแล้ว ยังมีภาษากายที่สำคัญที่จะทำให้ลูกรับฟังมากขึ้น ลองพูดกับเขาดีๆ พูดด้วยสายต าแห่งความรัก แล้วลูกจะเชื่อฟังเข้าใจคุณมากขึ้น
5. หาสาเหตุหลักๆ ว่าอะไร คือสิ่งที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟังเรา
เ พ ร า ะถ้าลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง บางทีอาจเป็นเ พ ร า ะกำลังโก ร ธ หรือเ สี ยใจ ต้องการให้พ่อแม่เอาใจ แต่ถึงอ ย่ างไรซะ สิ่งที่ควรทำ คือ พูดคุยและหาคำตอบว่า ทำไมกันลูกไม่เชื่อฟัง บอ กรักลูกบ่อยๆ ให้ลูกรู้ไว้ว่ามีพ่อแม่อยู่ข้างๆ ให้กำลังใจเสมอ และสังเกตทัศนคติ วิ ธีคิดของเขาด้วย รวมถึงการพูด ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะเข้าใจลูกมากขึ้น จะได้เข้าใจถึงปัญหาเหล่านั้น
6.ฟังในเรื่องที่ลูกจะบอ กด้วย
ก็เ พ ร า ะบางสิ่งที่พ่อแม่คิด มันก็ไม่ได้ถูกต้องสำหรับลูกเสมอไป เ พ ร า ะเด็ ก แต่ละคนเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเองและสิ่งที่ควรทำ เราต้องถามให้รู้ว่า ลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร มีจุกประสงค์อะไร จากนั้นจงตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ลูกผ่อ นคล า ย ลดความกังวลลงไปได้
7. สอนลูกใช้ความคิด สอนให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
การที่เราใช้ประโยคคำสั่ง มันเพียงแค่ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่องเลย ทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด และมันยังส่งผลต่อลูก ทำให้เขาไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองไปเลยก็ได้ อาจกล า ยเป็นคนไม่มั่นใจเมื่อโตไป ไม่กล้าที่จะคิดอะไรใหม่ๆ เ พ ร า ะงั้นเราต้อง ฝึกให้ลูกใช้ความคิด ฝึกแก้ปัญหาด้วยตัวเอง อ ย่ างเช่น ไหนลูกลองคิดสิว่า จะเอาตุ๊กต าตัวนี้เก็บไว้ไหนดี และนอ กจากนี้ควรหากิจก ร ร มสนุกๆ ทำด้วยกัน เมื่อพ่อแม่เห็นลูกทำไม่ถูกต้อง จะได้สอนลูกให้คิดได้ แก้ปัญหาเป็น และแทรกเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมไปได้ด้วย
ที่มา a b o u t m o m san-sabai