Home ข้อคิด คำคม ฝากให้คิด เก่งแค่ไหนก็อ ย่ าไปเที่ยว ดู ถู ก ใคร

ฝากให้คิด เก่งแค่ไหนก็อ ย่ าไปเที่ยว ดู ถู ก ใคร

18 second read
ปิดความเห็น บน ฝากให้คิด เก่งแค่ไหนก็อ ย่ าไปเที่ยว ดู ถู ก ใคร
0

โบราณว่า ขุนเขาตั้งอยู่ไม่เปลี่ยน ก็ให้เปลี่ยนเส้นทาง เส้นทางไม่เปลี่ยนแปลงต ามนักเดินทาง นักเดินทางต้องรู้จักเลือ กเดินเอง ขอแค่เป็นทางอันถูกควร อ้อมบ้างก็ไม่เห็นเ สี ยห า ยอะไร น้ำสามารถไหลไปรวมกันจนเป็น มหาสมุทรได้ก็เ พ ร า ะสามารถหลบหลีกอุปสรรครู้จักลดเลี้ยวรู้จัก อ่อน แข็ง ต ามสถาณะการณ์

โลกนี้มี คนเก่ง มากมาย แต่คนเก่งที่ ไม่มีคุณธรรม ก็มีไม่น้อย เ พ ร า ะ เอาแต่คิดว่า ข้าเก่ง ข้าแน่ ทุกคนต้องยอมรับในความคิดของข้าเป็นคนเก่งนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แค่เก่งมันยังดีไม่พอต้องรู้จักวางตัวด้วย ชีวิตคน บางที ต้องเลี้ยวบ้าง อ้อมบ้าง จะตรงไปข้างหน้าตลอ ดมันก็ไม่ได้

คนเก่งจะกล า ยเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ได้ บางครั้งก็ต้องรู้จักทำตัวให้เหมือนน้ำ อ ย่ าคิดว่าตัวเองเก่งแล้วเที่ยวไปตัดสินคนนั้นคนนี้ ยิ่งสูงเท่าไรยิ่งต้องโน้มตัวลงให้ติดพื้นเท่านั้น

ทุกคนล้วน มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน มีความเป็นคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็อ ย่ าได้ไปเที่ยว ดู ถู ก ใคร เลิก เ สี ย แล้วเชื่อว่าคุณจะสร้างโอกาสไปสู่ชีวิตที่ดีได้อีกมากโขทีเดียวล่ะครับ

1. เลิกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล

ฟังคนอื่น มั่ง คือสิ่งที่ผมมักบอ กหล า ยๆ คนที่มักเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง ประเภทชั้นทำอะไรถูกเสมอ ชั้น มีเหตุผลของชั้น และเหตุผลของชั้นนั้นเพียงพอสำหรับทุกๆ อ ย่ าง และพอมากๆ

เข้าก็กล า ยเป็นว่าทุกอ ย่ างในชีวิตต้องเป็นไปต ามที่ตัวเองคิด สิ่งที่คนอื่นพูดมานั้นหากไม่ใช่การยอมรับหรือเห็นด้วยก็จะมองว่าไม่เข้าข้าง คิดผิ ด และปฏิเสธความคิดเหล่านั้นไปเ สี ยหมด

ที่หนักๆ คือหล า ยๆ คนได้เจอคนดีๆ เข้ามาตักเตือนก็ไม่ฟัง หาว่าคนเหล่านั้นไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่ตัวเอง ฯลฯ ผมมักพูดเสมอว่ามัน มีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความเชื่อมั่นในตัวเองกับการหลงตัวเอง

ซึ่งถ้าเราตั้งสติและแยกแยะไม่ดีแล้ว เราจะข้ามเส้นไปสู่การทนงและเต็มไปด้วย Ego ชนิดที่ไม่ยอมรับเหตุผลอื่นๆ ซึ่งอาจจะถูกหรือ ดีกว่าที่เราคิดด้วยซ้ำ

นอ กจากนี้แล้ว ชีวิตของเรายังมีคน มากมายที่อาจจะเก่งกว่าเรา รู้มากกว่าเรา มีประสบการณ์มากกว่าเรา มีวิสัยทัศน์มากกว่าเรา ซึ่งคนเหล่านี้ในมุมหนึ่งเหมือนครู เทวดาของเราที่ช่วยเตือนหรือแนะนำทางที่ใช่ให้กับเรา แน่นอนว่าคำแนะนำบางอ ย่ างอาจจะขัดใจ

หรือไม่ตรงกับที่เราคิด แต่ก็นั่นแหละที่คำแนะนำเหล่านั้นหล า ยๆ ครั้งทำให้เราเปลี่ยนวิ ธีคิดไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ ชีวิตผมเองก็ได้คนเหล่านี้ช่วยแนะนำและขัดเกลาตัวผมมาตลอ ด ลองดูสิครับ

ลองเปิดใจฟังคำแนะนำ คำตักเตือนของคนที่คน มองว่าน่าเชื่อถือ และปรารถนาดีกับคุณ อ ย่ าฟังแต่เฉพาะเ สี ยงที่เยินยอ สรรเสริญคุณ หรือปลอบแบบเห็นอ กเห็นใจคุณโดยไม่สนผิ ดถูก ซึ่งเอาจริงๆ เ สี ยงเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวและพึงระวังเ สี ยอีกต่างหาก เ พ ร า ะนั่นอาจจะเป็นการสร้างกะลามาครอบตัวคุณโดยไม่รู้ตัว

2. เลิกคิดว่าคนอื่นไม่เข้าใจตัวเอง ไม่มีใครเป็นแบบฉัน

เอาจริงๆ มันก็ไม่มีใครที่จะมีประสบการณ์แบบเรา 100เปอร์เซน เ พ ร า ะแต่ละคนก็ล้วน มีปัจจัยท่ีแตกต่างกันไป แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเข้าใจและเข้าถึงตัวเราไม่ได้ การไปตราหน้าเขาว่าไม่เข้าใจ ไม่รู้จักตัวเรา มันก็กล า ยเป็นการสร้างอคติให้ตัวเราเองจนไม่สามารถฟังความเห็นหรือมุมมองจากคนอื่น

ในประสบการณ์ของผมนั้น คนเก่งๆ และคนที่สามารถสร้างทางชีวิตไปสู่สิ่งดีๆ นั้นคือคนที่เปิดรับมุมมองจากคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเอง เห็นรอบ มากขึ้น ก่อนจะสามารถเลือ กเดินได้อ ย่ างดี ทั้งนี้เ พ ร า ะพวกเขาจะเห็นอะไรมากกว่าที่เขามองด้วยตัวเองเพียงคนเดียว

แม้ว่าใครๆ ก็อาจจะไม่ได้เข้าใจคุณ 100เปอร์เซน แต่บางอ ย่ างจากประสบการณ์ของพวกเขาก็อาจจะเคยผ่านอะไรที่คล้ายๆ กัน เทียบเคียงกันได้ บ้างก็อาจจะเคยเจออะไรที่หนักกว่าเราเ สี ยด้วยซ้ำ

มันเลยน่าจะเป็นเรื่องดีที่ลองฟังเรื่องราวและมุมมองจากเขาแล้วเอามาประกอบการวิเคราะห์ของเราเอง แทนที่จะปิดกั้นตั้งแต่ยังไม่ทันรู้ นอ กจากนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้เราโตขึ้นคือ การได้สะสมประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่นๆ ย่อมดีกว่าการที่เราสนใจแต่ประสบการณ์ของตัวเราเองคนเดียวนั่นแหละ

3. เลิกดูถูกตัวเอง

สิ่งสำคัญที่ผมมักให้คำแนะนำกับหล า ยๆ คนที่มาปรึกษาผมหรือผมไปปลอบเขาในวันที่รู้สึก แ ย่ ๆ คือ การบอ กว่าอ ย่ าดูถูกตัวเอง หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เ พ ร า ะนั่นจะทำให้เราปิดตัวเองอ ย่ างรวดเร็วและนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ไร้ความมุ่งมั่น และยอมแพ้กับชีวิตเอาได้ง่ายๆ

ผมเองก็เคยผ่านชีวิตช่วงที่คิดแบบนี้มาก่อน ผมบอ กได้เลยว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีเลยแม้แต่น้อย มัน มีแต่ทำให้เรารู้สึกว่าทุกๆ อ ย่ างคงไม่มีอะไรดีตราบใดที่ยังเป็นตัวเรา ทั้งที่จริงๆ แล้วตัวเราเองก็มีค่าสำหรับหล า ยๆ คน และยังสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย เพียงแต่เราไปตีตรามันเ พ ร า ะความผิ ดพลาดบางอ ย่ างที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว

ต่อให้ที่ผ่าน มาเราจะผิ ดพลาดอะไรไป มันอาจจะไม่ได้ดั่งใจ มันอาจจะไม่สวยงาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวันพรุ่งนี้มันจะ แ ย่ แบบนั้นตลอ ดไป มันอยู่ที่เราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและทำให้มันดีขึ้นไหม คนจำนวน มากผิ ดพลาดอยู่ไม่น้อย ลองผิ ดลองถูกก็เยอะ แต่เ พ ร า ะการ พ ย า ย า ม ที่จะไปสู่สิ่งที่ดีกว่ามันค่อยๆ เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งนั่นต่างจากการเอาแต่คิดว่าอะไรๆ ก็ แ ย่ และไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น มาเลย

4. เลิกเอาตัวเองไปต าม เทียบกับคนอื่น

หนึ่งในความทุ ก ข์มาตรฐานของคนแบบเราๆ คือ การที่พบว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ตัวผมเองก็เคยตกอยู่ในภาวะแบบเดียวกัน เมื่อผม พ ย า ย า ม เอาชีวิตตัวเองไปเทียบกับคนรอบข้าง ทั้งที่จริงๆ แล้วการเทียบแบบนี้มีแต่จะทำให้เรากดดัน รู้สึก แ ย่

เ พ ร า ะท้ายที่สุดเราก็จะ พ ย า ย า ม มองไปว่าเราด้อยกว่าเขาเรื่องนั้นเรื่องนี้ หรือถ้าใครดีกว่าก็กล า ยเป็นว่าดูถูกคนอื่นเ สี ยอีก นั่นยังไม่นับกับการ พ ย า ย า ม เดินต ามคนอื่นๆ จนหล า ยๆ คนก็ลืมตัวตนของตัวเองไปเลย สำหรับผมนั้น สิ่งที่ดีคือ การที่เราหาคุณค่าในแบบตัวเราเองแล้วขัดเกลามันให้ดีในแบบที่เราเป็น ไม่ต้องไปเทียบว่าคนอื่นเป็นอ ย่ างไร

เราต้องไม่ลืมว่าคนอื่นๆ นั้น มีปัจจัยที่ต่างจากเรา ไม่ว่าจะพื้นฐานครอบครัว ประสบการณ์ ฯลฯ ซึ่งมันไม่แฟร์เลยที่เราจะ พ ย า ย า ม เอาตัวเราไปเทียบกับเขาเพียงเพื่อจะเอาชนะ และสุดท้ายก็แพ้อยู่ดี

5. เลิกคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว แน่แล้ว เจ๋งแล้ว

การที่ชีวิตเราจะดีขึ้นได้ มันก็ต้องเกิดจาการเปลี่ยนแปลงอะไรหล า ยๆ อ ย่ างในชีวิตของเรา หนึ่งในนั้นคือทักษะ ความสามารถและทัศนคติต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากเราเอาแต่คิดว่าเราเก่งแล้ว ดีแล้ว ไม่ต้องพัฒนาแล้วเป็นแน่

จากประสบการณ์ของผมนั้น การเปลี่ยนทัศนคติ การเพิ่มทักษะและความสามารถตัวเองแม้ว่าจะไม่ได้เยอะมากแต่ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตพอสมควร เช่นถ้าเราคิดว่าเรายังรู้ไม่พอ ยัง อ ย า ก รู้ เพิ่มเติม เราก็จะเริ่มใช้เวลากับการหาความรู้ใส่ตัวมากขึ้น แม้จะไม่เยอะมากแต่มันก็ค่อยๆ

สะสมไปเรื่อยก่อนที่เราจะพบว่าเรามาไกลจากจุดเดิมพอสมควร ซึ่งนั่นจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลยถ้าเราคิดว่า พอแล้ว การทำตัวน้ำเต็มแก้วเป็นสิ่งที่เราถูกเตือน มาตั้งแต่เด็ก เป็นแง่คิดที่เราถูกปลูกฝังมาแต่ไหนแต่ไร อ ย่ างไรก็ต ามมันก็ดูจะถูกลืมโดยเฉพาะเมื่อเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

ยิ่งถ้าประสบความสำเร็จ ก้าวหน้า ได้รับตำแหน่งใหญ่ๆ โตๆ แล้ว ความสำเร็จเหล่านี้กล า ยเป็นภาพที่ทำให้เราหลงไปว่าเราเก่งแล้ว มาไกลเพียงพอแล้ว ซึ่งในไม่ช้ามันก็จะกล า ยเป็นกับดักให้ตัวเราหลุดออ กจากเส้นทางการพัฒนาตัวเองนั่นแหละ ฉะนั้นแล้ว ลองปรับความคิดดูว่าเรายังไปได้อีก ยังเก่งได้อีก ยังรู้ได้มากขึ้นอีก แล้วหาทางที่จะไป ได้อีก ดูสิครับ แล้วคุณจะเริ่มเห็นว่าชีวิตของเราเปลี่ยนวิ ธีคิด และวิ ธีมองโลกรอบๆ ตัวเราพอสมควรเลยทีเดียว

ที่มา B o d h i s a t H e a r t , นุ ส น ธิ์ บุ ค ส์  sabailey

Load More Related Articles
Load More By kiddidee
Load More In ข้อคิด คำคม
Comments are closed.

Check Also

4 ข้ อคิดใช้เ งิ นให้มีเก็บของคนเ งิ นเดือน 15,000

ทุกวันนี้อะไรก็ขึ้นราคาไปหมดมีอ ย่ างเดียวที่ไม่ขึ้นก็ค … …